ชิปปิ้งกับสิ่งที่ต้องเตรียมรับมือในอุตสาหกรรมการขนส่ง ในปี 2020

ชิปปิ้ง สิ่งที่ชิปปิ้งต้องรับมือในอุตสาหกรรมขนส่ง WEB ชิปปิ้ง ชิปปิ้งกับสิ่งที่ต้องเตรียมรับมือในอุตสาหกรรมการขนส่ง ในปี 2020                                                                                                                             WEB 768x402

ชิปปิ้งยังต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตซึ่งเป็นสิ่งวัดใจ และสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในองค์กร

และขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายให้กับบริษัท เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจเพื่อความอยู่รอด

อุตสาหกรรมขนส่งก็เช่นเดียวกัน เป็นที่คาดการณ์กันว่า ในปี 2020 นี้ นอกเหนือจากวิกฤตโควิด-19 ที่บริษัทขนส่งต้องรับมืออย่างไม่ทันตั้งตัวแล้ว ยังมีอีก 3 สิ่งสำคัญ ที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมหาวิธีรับมือ อาทิ ความขาดแคลนของพนักงานขับรถ ค่าประกันภัยที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการให้บริการ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจขนส่งนั้น สำหรับยุคนี้ ผู้ประกอบการชิปปิ้ง ต้องให้ความสำคัญมากกว่าแค่การขนย้ายสินค้า แต่ยังต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาในขณะที่มีการขนย้ายเกิดขึ้นด้วย และหากพบว่า การจัดการด้านขนส่งมีความเสี่ยง ก็สามารถนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น จัดส่งถึงมือลูกค้าได้ตามกำหนดเวลา

สำหรับประเด็นที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมขนส่งปีนี้ และเป็นสิ่งชิปปิ้งทั่วโลก ต้องเตรียมรับมือ Chinatopcargo ได้รวบรวมมา 3 ประเด็น ดังต่อไปนี้

  1. ความขาดแคลนพนักงานขับรถ

เป็นปัญหาอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมขนส่งในปี 2019 ที่เห็นได้ชัดเจน และคาดว่าจะต่อเนื่องมาถึงปีนี้ด้วย เนื่องจากการเติบโตของผู้ขับและผู้ประกอบการ ต้องเผชิญกับแรงกดดันอันเกิดจากกฎระเบียบของรัฐ ยานพาหนะจำนวนมากจำเป็นต้องมีการปรับปรุงเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการ ตลอดจนต้องแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน เช่น ระยะเวลาการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกในรถบรรทุก เป็นต้น ดังนั้นผู้ประกอบการอาจต้องลงทุนเพื่อปรับปรุงการให้บริการ จัดสรรการฝึกอบรมให้แก่พนักงาน และการสนับสนุนสำหรับพนักงานขับรถ

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ American Trucking Association ระบุว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์มีผู้ขับขี่ประมาณ 60,800 คน และคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปัจจัยที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้คือ การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุและขาดแรงงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมขนส่ง

  1. ค่าประกันภัยและความรับผิดชอบสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยนี้ เกิดจากความล้มเหลวของธุรกิจขนส่งทางรถบรรทุกในปี 2019 เนื่องจาก ‘ต้นทุนประกันภัยที่เพิ่มขึ้น’ นั่นคือสาเหตุหลักที่บีบบังคับให้ธุรกิจปิดดำเนินการ ความถี่ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกิดจากอุบัติเหตุรถบรรทุกเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นผลทำให้เบี้ยประกันไม่สามารถจ่ายให้กับผู้ให้บริการได้ทัน ทั้งยังส่งผลกระทบต่อตลาดประกันภัยรถบรรทุกแข็งตัว กลายเป็นว่าอุตสาหกรรมเกิดภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ เนื่องจากยานยนต์เป็นกลุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบมากที่สุด

  1. การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์

ผู้ประกอบการขนส่งทางรถบรรทุกเกือบทุกกลุ่มมีการใช้ระบบที่เรียกว่า Telematics หรือระบบตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถ ที่มีการรวมเอาเทคโนโลยี on-board diagnostics หรือ ODB ซึ่งเป็นมาตรฐานในการกำหนดลักษณะของข้อมูลและวิธีการเชื่อมต่อข้อมูลของเครื่องยนต์ เข้ากับเทคโนโลยี GPS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการบอกตำแหน่ง จึงสามารถใช้ในการบันทึกและทราบตำแหน่งของรถว่าอยู่ที่ไหนและใช้ความเร็วในการเดินทางเท่าไหร่ รวมถึงสามารถรู้ได้ว่ามีลักษณะและรายละเอียดการขับขี่อย่างไรอีกด้วย นั่นหมายความว่าข้อมูลนี้ อาจมีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ผู้บริโภคมีความกระตือรือร้นในการติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าอยู่ตลอด การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจชิปปิ้งจึงมีความจำเป็นอย่างมาก