ชิปปิ้ง พารู้จัก 8 ประเภทรถบรรทุกสำหรับขนส่งสินค้า

ชิปปิ้ง รถบรรทุก 8 ประเภท ชิปปิ้ง ชิปปิ้ง พารู้จัก 8 ประเภทรถบรรทุกสำหรับขนส่งสินค้า                          8                    768x402

ชิปปิ้ง คือผู้ให้บริการขนส่งสินค้า หากคุณกำลังวางแผนที่จะขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจคือ รถบรรทุกมีหลายประเภท

ซึ่งแต่ละประเภทต่างมีความสามารถเฉพาะตัวและเหมาะกับงานขนส่งหรือให้บริการชิปปิ้งที่แตกต่างกัน

โดยรถบรรทุกบางประเภทอาจมีความสามารถแบบเฉพาะเจาะจง และอาจไม่เหมาะสำหรับใช้งานในโซลูชั่นอื่นๆ ข้อมูลต่อไปนี้เป็นประเภทของรถบรรทุกที่ได้รับความนิยมใช้ทั่วโลก มีทั้งหมด 8 ประเภท ได้แก่

ประเภทที่ 1 รถบรรทุกกึ่งพ่วง

เป็นรถบรรทุกที่ได้รับความนิยมสูงสุด สามารถรองรับความต้องการด้านการขนส่งได้เกือบทั้งหมด บรรทุกได้ทั้งจากด้านหลัง ด้านข้าง และด้านบน โดยรถบรรทุกกึ่งพ่วง มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุดประมาณ 24,000 กิโลกรัม ซึ่งเหมาะสำหรับการบรรทุกหรือขนส่งสินค้าพาเลท

ประเภทที่ 2 รถบรรทุกตรง

รถบรรทุกประเภทนี้เรียกว่า ‘รถตู้บรรทุก’ สามารถบรรทุกสินค้าได้ในตัวถังเดียวกันกับห้องโดยสารและยูนิตจ่ายไฟ อย่างไรก็ตามสามารถโหลดสินค้าได้จากด้านหลังเท่านั้น ส่วนใหญ่ใช้ขนส่งสิ่งของ เช่น เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของขนาดเล็กอื่นๆ รถบรรทุกประเภทนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนส่วนใหญ่เมื่อมีการขนย้ายของ เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่ารถกึ่งพ่วง ช่วยปกป้องสินค้าจากความเสียหายจากปัจจัยอื่นๆ

ประเภทที่ 3 รถบรรทุกพ่วงขนาดใหญ่/รถเทรลเลอร์จัมโบ้

รถเทรลเลอร์จัมโบ้เป็นรถกึ่งพ่วง ที่มีพื้นที่มากเป็นพิเศษ เนื่องจากรถเทรลเลอร์จัมโบ้มีล้อขนาดเล็ก เช่นเดียวกับรถบรรทุกกึ่งพ่วง น้ำหนักสูงสุดที่สามารถบรรทุกได้คือ 24,000 กิโลกรัม หากคุณวางแผนขนส่งสินค้าปริมาณมาก รถบรรทุกประเภทนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยสามารถบรรทุกได้จากด้านหลัง ด้านบน และด้านข้าง

ประเภทที่ 4 รถบรรทุกยกหาง

รถบรรทุกยกหาง มีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยกงานหนัก ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการขนส่งกระจายสินค้า โดยรถบรรทุกประเภทนี้มีกลไกการยก ที่ทำให้ง่ายต่อการโหลดสินค้า รถยกหางสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 500 – 2,000 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับประเภทของหางยกที่ติดตั้ง และสามารถบรรทุกสินค้าได้จากด้านหลังเท่านั้น

ประเภทที่ 5 รถพ่วงบรรทุก

หนึ่งในข้อดีของรถพ่วงบรรทุก คือช่วยให้สามารถโหลดและยกเลิกการโหลดได้อย่างรวดเร็ว ยังมีพื้นที่สำหรับบรรทุกสิ่งของปริมาณมาก สามารถบรรทุกได้มากถึง 16 – 25 ตัน แม้ว่าจะมีปริมาณการบรรทุกที่มาก และต้องต้องเผชิญกับความท้าทายในการขนส่งทางไกล แต่รถพ่วงบรรทุกประเภทนี้ สามารถปกป้องสินค้าจากสภาพอากาศที่เลวร้ายได้เป็นอย่างดี

ประเภทที่ 6 รถบรรทุกพื้นเรียบ

รถบรรทุกประเภทนี้มีลักษณะเป็นเตียงนอนราบ ไม่มีด้านข้างหรือหลังคา เป็นรถบรรทุกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นรถเอนกประสงค์ เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นิยมใช้ขนส่งยานพาหนะไปยังงานแสดงรถยนต์ งานนิทรรศการต่างๆ มีความสามารถในการบรรทุกน้ำหนัก 15 – 25 ตัน โหลดสินค้าได้จากด้านหลัง ด้านบน และด้านข้าง

ประเภทที่ 7 รถพ่วง Lowboy

เป็นรถพ่วงที่ไม่มีกำลังไฟฟ้า นิยมใช้ขนส่งสิ่งของที่มีความสูงเกินขีดจำกัดตามกฎหมาย และสินค้าที่ไม่สามารถขนส่งด้วยรถเทรลเลอร์แบบพื้นเรียบได้ สามารถโหลดได้จากด้านข้าง ด้านบน และด้านหลัง เช่นเดียวกับรถพ่วงพื้นเรียบ

ประเภทที่ 8 รถพ่วงแช่เย็น

ใช้ขนส่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องแช่แข็งหรือแช่เย็น มีหน่วยควบคุมอุณหภูมิ ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในรถได้ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิร้อนหรือเย็น รถพ่วงตู้เย็นมีความพิเศษสำหรับการขนส่งสิ่งของที่มีความอ่อนไหว ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขนย้ายและจัดเก็บรักษาความสมบูรณ์เอาไว้ อย่างไรก็ตามรถบรรทุกประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถพ่วงมาตรฐานทั่วไป เนื่องจากใช้เชื้อเพลิงพิเศษเพื่อให้ระบบควบคุมอุณหภูมิทำงาน

การขนส่งทางบกหรือผ่านทางรถ ส่วนใหญ่ผู้ให้บริการชิปปิ้งต่างใช้ทั้งระบบขนส่งทางตู้คอนเทนเนอร์ร่วมด้วย เพื่อจัดการกับสินค้า เมื่อรู้ประเภทของรถบรรทุกแล้ว มารู้จักกับ ‘เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการขนส่งระบบคอนเทนเนอร์’ เพื่อให้คุณใช้เป็นรายละเอียดในการตัดสินใจ ก่อนเลือกใช้บริการชิปปิ้ง!