อย่างไรก็ตาม 1688 มีข้อมูลว่าจีนยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นที่ตั้งของ 7 ใน 10 เมืองที่มีท่าเรือคึกคักที่สุดของโลกเช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม บริษัทในสหรัฐอเมริกากำลังมองหาแหล่งผลิตในประเทศจีน เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตสินค้าให้กับพวกเขา

ต่อไปนี้คือข้อมูลล่าสุดของเมืองที่มีอิทธิพลของโลก เป็นแหล่งผลิตสำคัญของจีน และมีท่าเรือประจำเมืองที่ใช้สำหรับขนส่งสินค้าข้ามประเทศ

อันดับ 7 เทียนจิน

ศูนย์กลางการผลิตและมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของจีน ท่าเรือของเมืองนี้ให้บริการในมองโกเลียและกับจีนถึง 11 จังหวัด มีที่ตั้งติดกับแม่น้ำ Haibe เมืองเทียนจินได้กำหนดมาตรฐานที่สูง เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยหวังไต่อันดับขึ้นไปเป็นเบอร์ 3 ของจีนทางด้านการนำเข้า ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและสิ่งทอที่ทันสมัย ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อันดับ 6 กว่างโจว

แม้กวางโจวไม่สามารถเข้าถึงทางทะเลได้โดยตรง แต่เป็นเมืองหลวงที่มีท่าเรือขนาดใหญ่อีกแห่ง ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำเพิร์ลเดลต้าและให้บริการเส้นทางตรงสู่ไต้หวัน โดยโกดังของ Chinatopcargo ก็ตั้งอยู่ที่เมืองนี้เช่นกัน เพื่อขนส่งสินค้าที่ทำการสั่งซื้อจาก 1688, Taobao และ Tmall การเข้าถึงและออกจากท่าเรือ ทำให้ท่าเรือแห่งนี้แยกจากกัน อุตสาหกรรมการผลิตชั้นนำของกว่างโจวเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แบรนด์ยานยนต์ชั้นนำอย่าง Honda, Nissan และ Toyota ถูกผลิตในกว่างโจว อีกทั้งยังมีบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำขนาดใหญ่อื่นๆ ตั้งอยู่ในกว่างโจวอีกหลายแห่ง

อันดับ 5 ชิงเต่า

เป็นเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน มีกำลังการผลิตที่หลากหลายทางด้านอุตสาหกรรม เช่น ชีวเภสัชกรรม, เภสัชภัณฑ์, อิเล็กทรอนิกส์, เคมีภัณฑ์ขั้นสูง, ปิโตรเคมี, เครื่องจักร, รถยนต์, วัสดุก่อสร้าง และโลหะวิทยา นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเสื้อผ้า ชิงเต่าตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเหลืองทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ทำให้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของประเทศจีน

อันดับ 4 หนิงโป

เมืองหนิงโปเติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีทำเลที่ตั้งทางตอนใต้ของเซี่ยงไฮ้ ทำให้เมืองนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งชาติของจีน และมีความหลากหลายของอุตสาหกรรมการผลิต เช่น สารเคมี, เครื่องจักรไฟฟ้า, การผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และอุปกรณ์ไอที

อันดับ 3 ฮ่องกง

เป็นเมืองที่ยังรักษามาตรฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในประเทศจีนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ฮ่องกงมีอุตสาหกรรมหลักเป็นข้อได้เปรียบชัดเจน ที่ส่งเสริมการพัฒนาในอนาคต เช่น เทคโนโลยี, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการศึกษา รวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม

อันดับ 2 เซินเจิ้น

เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและเป็นที่ตั้งของท่าเรืออันดับ 3 ของโลก เซินเจิ้นเป็นเมืองที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษชั้นนำของจีน (SEZ : Special Economic Zone) และภาคการขนส่ง อุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของเซินเจิ้นโดดเด่นในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ แบรนด์ยอดนิยมของโลก เช่น  Apple และ LG ก็มีฐานการผลิตที่เซินเจิ้นเช่นกัน

อันดับ 1 เซี่ยงไฮ้

เป็น 1 ใน 5 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจีน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน และมีบทบาทสำคัญทางอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกันบริษัทผลิตยานยนต์ระดับโลกอย่าง Volkswagen และ General Motors ก็มีโรงงานตั้งอยู่ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ยังขึ้นชื่อทางด้านการผลิตพลาสติก, เอทิลีน, ไมโครคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ

 

ด้วยกำลังการผลิตที่เข้มแข็งของจีน ช่วยกระตุ้นฟื้นฟูให้เศรษฐกิจของจีนกลับมาเติบโตอีกครั้งหลังวิกฤตเลวร้ายได้ โดยมีแนวทางที่รองรับและเร่งด่วน จะเป็นอย่างไรอ่านได้ที่ ‘4 สิ่งเร่งลงทุนในจีน เปลี่ยนเศรษฐกิจพัง ให้ปังหลัง COVID-19’ เป็นข้อมูลที่รวบรวมแผนเร่งฟื้นเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับกำลังการผลิตที่พลิกฟื้นจีนให้เป็นมังกรผงาดขึ้นมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม 1688, Taobao และ Tmall ซึ่งอยู่ในเครือ Alibaba ยังเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่ถูกจับตามองทั่วโลกควบคู่กับการผลิตด้วยเช่นกัน