ชิปปิ้ง ในสถานการณ์ Covid-19 นี้ หลายประเทศทั่วโลกได้ออกมาตรการ Stay Home Stay Safe รวมทั้งออกกฎให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)
แทนที่จะเดินทางออกจากบ้านมาทำงาน ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสให้ลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม การทำงานจากที่บ้าน เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำงานทางไกล (Telework) ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสวีเดน ไอซ์แลนด์ และสหราชอาณาจักร คิดเป็นประมาณ 25% ของแรงงาน มักจะมีการทำงานแบบ Telework หรือทำงานจากที่บ้าน
Chinatopcargo ผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนหรือบริการชิปปิ้งจีน ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Telework ที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันในประเทศสเปนกลับมีค่าตัวเลขต่ำเพียง 3% แต่ที่น่าสนใจคือ 27% ของธุรกิจในสเปน กล่าวว่า พวกเขาได้ลองรูปแบบการทำงานแบบ Telework ตามความนิยมที่เพิ่มขึ้น แต่กลับพบว่ามันเป็นไปได้ช้ากว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดหวังเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ประเทศต่อไปนี้ คือ 10 ประเทศในยุโรปที่นิยมทำงานจากที่บ้านมากที่สุดประจำปี 2018 (ข้อมูล : Statista)
อย่างไรก็ตาม ข้อดีของ Telework คือ ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน ปรับปรุงความคล่องตัวในตัวเมืองหรือการจราจร เช่นเดียวกับการลดมลพิษทางอากาศ ทั้งยังให้อิสระในการทำงานสำหรับพนักงาน และมีข้อตกลงการทำงาน ที่มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น ถึงอย่างนั้น มันยังเป็นเรื่องยากสำหรับการเปลี่ยนแปลงในการส่งเสริมการทำงานรูปแบบ Telework
โดยทางผู้ประกอบการดิจิทัลต่างให้เหตุผลว่า มันเป็นเรื่องยากอย่างมาก หากคุณไม่เคยทำงานรูปแบบนี้มาก่อน ส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับการทำงานสถานที่ใดที่หนึ่งในช่วงเวลาปกติ เช่น ทำงานตั้งแต่ 08.00-17.00 น. หรือ 09.00-18.00 น. แล้วทำอย่างไรให้การทำงานแบบ Telework ประสบความสำเร็จ นั่นคือ สิ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้วิธีจัดระเบียบการทำงานของตัวเอง โดยทำตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น ต้องกำหนดเวลางานของคุณเอง และวางแผนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะต้องทำ หากไม่สร้างระเบียบวินัยในการจัดการเวลาแบบนี้ มันอาจทำให้คุณเสียเวลาไปหนึ่งวัน โดยที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานใดๆ เลย
อย่างไรก็ตาม ความจำเป็นในการเรียนรู้การทำงานแบบ Telework เริ่มจากการสื่อสารระยะไกลหรือการสื่อสารออนไลน์ การย้ายการทำงานแบบออฟไลน์เปลี่ยนไปเป็นการทำงานออนไลน์ กลายเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของการทำงานแบบ Telework หากในกรณีที่คุณคุ้นชินกับการขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานทุกครั้งที่มีปัญหา สิ่งที่คุณต้องปรับปรุงแก้ไขคือเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันธุรกิจใดๆ ที่มีรากฐานการทำงานแบบ Telework พนักงานจะเห็นหน้ากันเพียงสัปดาห์ละครั้ง มีการใช้โซเชียลมีเดียระหว่างพนักงานในการติดต่อสื่อสารนั้น เป็นความคุ้นเคยของการทำงานในรูปแบบ Telework และการทำงานแบบ Telework ทั้งหมดนี้เอง ส่วนใหญ่มักเป็นที่ต้องการของทุกคน
อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานสถิติสเปน (INE) มีเพียง 36% เท่านั้นของธุรกิจที่มีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 10 คน พนักงานเหล่านั้นเข้าถึงการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมลล์ การทำงานบนแอปพลิเคชั่น และธุรกิจทางออนไลน์ แต่เมื่อเทียบกับ 92.5% ของธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับบริษัทต่างชาติแล้วระบบการทำงานแบบ Telework กลับเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพราะคุณจะไม่ได้เห็นเจ้านายของคุณ แต่พวกเขาจะอยู่ที่ใดที่หนึ่งแทน เช่น เขาอาจอยู่ลอนดอนหรือดับลิน สิ่งนี้เองทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นเพราะพวกเขาเป็นธุรกิจที่แนะนำเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานแบบ Telework แม้พวกเขาจะเริ่มต้นช้ากว่าที่ต้องการ
ขาดระเบียบในการกำกับดูแล
ข้อมูลในกรณีของ Inma ที่ทำงานของบริษัทแห่งหนึ่ง จนไม่กี่วันที่ผ่านมาได้พนักงานทุกคนได้ทำงานแบบ Telework ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมกับโครงการระดับสากล อย่างไรก็ตามเจ้านายของเธอกลับไม่อนุญาตให้เธอทำงานแบบ Telework ในฐานะผู้ควบคุมการเงินได้ แล้วเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องมาที่บริษัทหรือสำนักงานด้วยซ้ำ เหตุผลคือ ‘เจ้านายของฉันเชื่ออย่างมาเกี่ยวกับการเข้าทำงานที่บริษัท แต่มีเหตุการณ์ที่สุนัขของฉันป่วย โดยที่ฉันขอมาช้า 1 ชั่วโมง เพื่อที่จะนำมันไปหาสัตวแพทย์ เจ้านายของฉันบอกให้ฉันหากฎหมายที่อนุญาตให้ฉันทำแบบนั้นได้ ขณะเดียวกันฉันเองก็มีเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เมื่อลูกๆ ของเธอป่วยและเธอขอทำงานที่บ้านแทน เธอเองกลับถูกตำหนิเช่นกัน หากต้องหาเหตุผลในการอยู่บ้าน ฉันจำเป็นต้องบอกว่าฉันป่วย แต่หากคุณได้ลองแล้ว แล้วไม่ได้ผลตอบรับ คุณจะทำอย่างไร?’ มันมีแค่อย่างเดียวที่ต้องทำคือต้องเข้าที่ทำงานหรือสำนักงานเพื่อที่จะทำงานในส่วนจำเป็นเท่านั้น ทำให้ต้องเดินทางด้วยยานพาหนะ อาจต้องต่อรถและผ่านการจราจรที่ติดขัดมากมาย แรกเริ่มใช้เวลาเดินทาง 30 นาทีถึง 2 ชั่วโมง ‘ในที่สุดฉันก็ลาออก มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ลาออก เนื่องจากการเดินทางเป็นหลัก’ เธอได้อธิบาย
ความสำคัญเกี่ยวกับการทำงานแบบ Telework คือ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงาน และยังสามารถทำงานร่วมกับกิจกรรมอื่นๆ ที่สำคัญในแต่ละวันได้ บางครั้งการทำงานที่บ้านยังช่วยให้มีสมาธิมากกว่าการทำงานที่บริษัทหรือสำนักงาน การติดต่อสื่อสารใช้ช่องทางออนไลน์ในการติดต่อและประชุมได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็นไปได้ของการทำงานแบบ Telework ที่เกิดขึ้นในสเปนในภาครัฐมีโอกาสเพียง 6.7% เมื่อเทียบกับ 17% ในยุโรป และ 51% ในสวีเดน บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ การทำงานรูปแบบนี้เป็นที่แพร่หลายอย่างมาก สำหรับหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลสเปนเป็นหนึ่งในสถาบันเอกชนเพียงไม่กี่แห่งที่ได้แนะนำการทำงานแบบ Telework และเพื่อผลที่ยอดเยี่ยม ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ได้มีการเพิ่มจำนวนและปรับปรุงแก้ไขในปี 2018 แต่คนที่ทำงานทุกคนที่ทำงานแบบ Telework ต้องเซ็นสัญญาเพื่อรองรับสิทธิ์เช่นเดียวกับพนักงานอื่นๆ ในบริษัท ต้องเคารพชีวิตส่วนตัว สุขภาพ และความปลอดภัย สำหรับสถานที่ทำงานที่บ้าน และเคารพความสมัครใจของการทำงานแบบ Telework ต่างสอดคล้องกับข้อตกลง
ถึงอย่างนั้นมันมีผลกระทบทางกฎหมายเพียงเล็กน้อย เพราะมันถูกมองว่าเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับพัฒนากฎหมายที่ทำงานในประเทศ ทว่า 15 ปีต่อมามันกลับไม่ประสบความสำเร็จในสเปน ด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคสำหรับความคืบหน้าภายในสเปน ดังนั้น Telework จึงเป็นทางหนึ่งในข้อตกลงที่มีเฉพาะบางภาคส่วนเท่านั้น เฉพาะมาตรา 13 ของธรรมนูญของคนงาน ประกอบด้วยเนื้อหาและการตีกรอบข้อตกลงที่คล้ายกัน แม้กล่าวว่าการทำงานแบบ Telework มีมากกว่างานทั่วไปมากขึ้น และมีความทันสมัยมากขึ้น