สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักทำอยู่เสมอ

สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักทำอยู่เสมอ

การใช้ Facebook ให้เป็นช่องทางหนึ่งในการทำธุรกิจ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกใหม่แต่อย่างใด ในปัจจุบันเราจะเห็นหลายธุรกิจ หลาย ๆ แบรนด์ เช่น การสั่งสินค้าจากจีน การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ การขายของออนไลน์ ต่างก็ใช้ช่องทางนี้ในการดำเนินการทางธุรกิจ เพราะ Facebook ไมได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มหนึ่งแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่เปรียบเสมือนโลกอีกหนึ่งใบและเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ถือได้ว่า Facebook เป็นช่องทางที่สำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจ เพราะการมีตัวตนบนโลกออนไลน์ในเฟชบุ๊ก เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะกับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น เช่น ธุรกิจการสั่งสินค้าจากจีน ที่ต้องทำให้แบรนด์หรือธุรกิจเป็นที่รู้จัก มีจำนวนแฟนติดตามธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณเป็นจำนวนมาก และยังช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะจะทำให้ช่องทางที่ผู้บริโภคจะมาปฏิสัมพันธ์สามารถทำได้อย่างง่าย ๆ  แต่การใช้ Facebook ให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือของการทำธุรกิจให้ดีขึ้นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ที่ไม่ว่าใครหรือธุรกิจใดจะใช้เครื่องมือนี้แล้วประสบความสำเร็จ เพราะ Facebook มีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและอัลกอลิทึ่มใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้ในทุก ๆ วัน ทำให้การทำการตลาดหรือนำมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจบนเฟชบุ๊กจะต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยนไปตามเวลาเสมอ และหลาย ๆ อย่างที่ทำกันมานานก็ยังเป็นบทเรียนอยู่ว่าไม่ควรทำจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่เหมาะสมทั้งในอดีตที่ผ่านมาและในปัจจุบัน วันนี้ chinatopcargo จะพาไปดูข้อผิดพลาดที่หลาย ๆ ธุรกิจหรือแบรนด์ต่าง ๆ ที่ชอบทำผิดกันบน Facebook

1. อัพโพสต์มั่ว

ธุรกิจ แบรนด์ หรือการใช้นักการตลาดในการทำการตลาดมักจะเจอปัญหานี้คือ การที่อัพโพสต์ต่าง ๆ บนเฟชบุ๊กมั่วไปหมด ไม่ได้มีแกนคอนเทนต์ว่าแบรนด์หรือธุรกิจนั้นควรจะสื่อสารอะไร แต่กลายเป็นว่าอัพทุกอย่างที่ชอบลงหน้าฟีดของตัวเองหรือเรื่องราวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือแบรนด์เลย ยิ่งกับธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น มักคิดว่าอัพเดตเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ก่อน เช่น คุณทำธุรกิจเกี่ยวกับการสั่งสินค้าจากจีน แต่คุณอัพเดตเรื่องกีฬา ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย เป็นต้น ซึ่งการทำแบบนี้ถือเป็นการทำร้ายแบรนด์หรือธุรกิจของตัวเอง เพราะการทำแบบนี้ทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคไม่ทราบว่าแบรนด์ของคุณมีไว้เพื่ออะไร อยากจะสื่อสารอะไรออกมา แถมร้ายแรงที่สุดคือการทำลายภาพลักษณ์ของธุรกิจหรือแบรนด์ที่ทำให้แอคเคาท์ของคุณดูไม่เป็นมืออาชีพอย่างมาก

สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักทำอยู่เสมอ  สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักทำอยู่เสมอ FGREEE 01
สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดที่ธุรกิจมักทำอยู่เสมอ

2. อัพแต่ลิงก์ออก 

ปัญหาอีกหนึ่งอย่างที่หลาย ๆ ธุรกิจหรือแบรนด์ที่มักละเลยและมองข้ามไปคือการไม่ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เข้าใจการทำงานของ Facebook ทำให้เมื่อเผยแพร่คอนเทนต์หรือเนื้อหาออกไป ก็จะเป็นการแนบลิงก์ออกไปทุกครั้ง แน่นอนว่าเฟชบุ๊กได้ปรับแพลตฟอร์มการทำงานของ Facebook ที่ไม่อยากให้คนออกไปนอกแพลตฟอร์มของตัวเอง ทำให้การลิงก์ออกไปยิ่งทำให้โพสต์ที่เผยแพร่ออกไปถูกลดค่าลงไปในการเห็นนั่นเองหรือทำให้จำนวนคนเห็นนั้นลดลง และถ้าธุรกิจหรือแบรนด์โพสต์ลิงก์ทุกอัน ก็มีแนวโน้มที่ว่าหน้าเพจหรือฟีดของคุณกำลังจะถูกลดค่าลงไปอย่างรวดเร็วจนไม่มีคนเห็น ซึ่งทำให้คุณต้องมีงบประมาณในการลงโฆษณาเพจมากขึ้นไปอีก

3. ภาพที่มีความละเอียดต่ำ 

การโพสต์ภาพหรือวิดีโอประกอบคอนเทนต์ที่มีความละเอียดต่ำหรือต่ำมาก ๆ  จะสร้างความรำคาญให้แก่ผู้เข้าใช้หรือผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมมาดูเนื้อหาเพจของคุณ ทำให้คอนเทนต์ที่คุณนำเสนออกไปดูไมน่าอ่านหรือไม่น่าสนใจขึ้นมาทันที หรือดูภาพ วิดีโอก็ดูไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องอาศัยภาพในการเล่าเรื่องหรือนำเสนอสินค้า เช่นการขายของออนไลน์ การนำเสนอภาพสินค้าในการสั่งสินค้าจากจีน ทำให้คนหรือผู้เข้าใจไม่เข้ามาปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ดังกล่าวอีกต่อไป วิธีแก้ไขปัญหานี้คือการอัพโหลดรูปภาพและวิดีโอที่มีความละเอียดสูงขึ้นไป เพราะด้วยระบบของ Facebook จะจัดสรรว่าอุปกรณ์แต่ละแบบนั้นควรได้รับความละเอียดภาพแบบไหนโดยจะขึ้นอยู่กับอุปกรณืและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในตอนนั้นนั่นเอง

4. ทำคอนเทนต์ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย 

การใช้เฟชบุ๊กในการทำธุรกิจให้ดีขึ้นนั้น ไม่ใช่ว่าจะโพสต์อะไรที่เกี่ยวกบธุรกิจก็ได้ แต่ธุรกิจหรือแบรนด์ต่าง ๆ ต้องมีความเข้าใจด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายที่คุณได้กำหนดไว้นั้นกำลังต้องการอ่านหรืออยากอ่านเนื้อหาแบบไหนหรือวิธีการทำคอนเทนต์แบบไหนที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายของคุณมีความสนใจเกี่ยวสินค้าจากจีนหรือการสั่งสินค้าจากจีน ผู้ประกอบการอาจมีการนำเสนอหรือทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการหรือนักการตลาดต้องเข้าใจและวางแผนในเรื่องของรูปแบบการโพสต์ ภาษา และเนื้อหาต่าง ๆ ที่นำเสนออกมาต้องมีความเข้าใจเรื่องถิ่นที่อยู่ เรื่องความเชื่อ เพื่อให้การทำคอนเทนต์ออกมาตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละแบบมากขึ้น

 5. ไม่ใช้ฟังก์ชั่นโฆษณาของเฟซบุ๊ก

การทำธุรกินย่อมมีการงทุน หลาย ๆ คนคิดว่าการมาใช้ Facebook แล้วจะฟรี หรือไม่มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ต้องลงเงินอะไรก็ได้ หรือหากมีก็มีค่าใช้จ่ายที่ถูก หากเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะทำได้ เพราะการปรับอัลกอลิทึ่มของเฟชบุ๊กที่บีบให้เพจมีอัตราการเห็นให้น้อยลง ดังนั้นหากคุณทำธุรกิจและใช้ Facebook เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการดำเนินงานทางธุรกิจ คุณจะต้องมีการลงเงินหรือมีงบประมาณแบ่งมาให้เฟชบุ๊กบ้าง โดยเฉพาะถ้าคุณทำเพจสำหรับธุรกิจแล้วมีการคิดต่อแบบ Organic นั้นเป็นไปได้ยากอย่างมาก ถ้าหากคุณไม่มีโฆษณาหรือซื้อโฆษณาจากเฟชบุ๊ก เพจของธุรกิจหรือแบรนด์แทบไม่เติบโตเลยก็ว่าได้ ดังนั้นธุรกิจหรือแบรนด์จะต้องมีการศึกษาและเรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มโฆษณาจาก Facebook ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงต่อกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ทำออนไลน์อย่างเดียวไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ การสั่งสินค้าจากจีน

6. ทำเพจแบบไม่อยู่กับร่องกับรอย 

เมื่อใช้ Facebook ในการทำธุรกิจ ข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการรักษาตัวตนของเพจเอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะกับธุรกิจหรือแบรนด์ที่มีผู้ดูแลหลายคนหรือเปลี่ยนมือผู้ดูแลเพจอยู่บ่อย ๆ ที่ไม่ได้มีคนดูแลที่เป็นหลัก ทำให้การสื่อสารหรือคอนเทนต์ที่เผยแพร่ออกไปมักเกิดการสับสนใน Mood & Tone เช่น อีกคนทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการสั่งสินค้าจากจีน พออีกคนทำคอนเทนต์บนเทิง เป็นต้น หรือรูปแบบการคุย เปรียบเทียบได้กับการเจอบุคคลหลายบุคลิก และอาจทำให้ผู้ติดต่อหรือคนที่มาปฏิสัมพันธ์นั้นรับมือไม่ถูกหรือรู้สึกแปลก ๆ การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการมอบหมายงานให้ใครสักคนประจำหรือมีกฎเกณฑ์ สร้างหลักการให้ใช้ร่วมกัน เพื่อให้คอนเทนต์หรือการสื่อสารเป็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นเอง

การทำธุรกิจในปัจจุบันล้วนอาศัย Facebook เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานหรือการเป็นหน้าร้านให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การขายของออนไลน์ การสั่งสินค้าจากจีน การนำเข้าสินค้าจากจีน (คลิกเลย) เป็นต้น ซึ่งหากใครใช้ Facebook แล้วรู้สึกว่ายังไม่ได้ผลหรือได้ประสิทธิภาพที่เพียงพอ ลองสำรวจหรือตรวจสอบถึงข้อผิดพลาดที่กล่าวถึงข้างต้นดู แล้วลองปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การใช้งาน Facebook ของธุรกิจหรือแบรนด์คุณได้ประสิทธิภาพมากที่สุด อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่