สั่งสินค้าจากจีนกับข้อสำคัญในการทำการตลาดบน YouTube
การตลาดเป็นหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการทำธุรกิจ โดยในเฉพาะในยุคที่เกิดแพลตฟอร์มใหม่ ๆ มากมาย จากโลออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ที่มีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน ที่เราจะได้เห็นกันแล้วว่าแพลตฟอร์มออนไลน์มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำธุรกิจออนไลน์ ขายของออนไลน์ การสั่งสินค้าจากจีน ที่แพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญ อย่างที่คุ้นเคยกันดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Facebook Twitter Instagram หรือการทำเว็บไซต์ เป็นต้น ที่เครื่องมือเหล่านี้เปรียบเสมือนได้กับร้านค้าที่เอาไว้ให้ผู้ประกอบการในการทำธุรกิจออนไลน์ ขายของออนไลน์ ขายสินค้าจากการสั่งสินค้าจากจีน ซึ่งในช่วงเริ่มต้นธุรกิจของคุณอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักหรือเป็นรับรู้สำหรับกลุ่มเป้าหมาย และหนึ่งในเครื่องมือที่จะมาช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นรู้จักมากขึ้นก็คือการทำการตลาด สำหรับแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อแวดวงของการทำการตลาด คงหนีไม่พ้นอย่าง YouTube เป็นหนึ่งในแลพตฟอร์มที่คนใช้งานเป็นจำนวนมาก
จากข้อมูล Marketing Oops ได้กล่าวถึงข้อมูลในเบื้องต้นถึงสาเหตุว่ทำไม ผู้ประกอบการหรือธุรกิจขายของออนไลน์ นำเข้าหรือสั่งสินค้าจากจีนไม่ควรมองข้ามแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ในการทำธุรกิจ โดยสามารถแบ่งข้อมูลที่สำคัญได้ดังนี้
- คนไทยเข้าใช้ยูทิวป์คิดเป็นร้อยละ 92
- คนไทยเข้าชมวิดีโอบนยูทิวป์ทุกวันคิดเป็นร้อยละ 75
- คนไทยในชุมชนเมืองเข้าชมวิดีโอบนยูทิวป์เฉลี่ย 70 นาทีต่อครั้ง คิดเป็นร้อยละ 93 และคนไทยในต่างจังหวัดใช้ยูทิวป์ในการเข้าชมวิดิโอเฉลี่ย 60 นาทีต่อครั้ง คิดเป็นร้อยละ 92
จะเห็นได้ว่าจำนวนคนไทยที่นิยมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์จาก YouTube ถือเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์ นำเข้าหรือสั่งสินค้าจากจีน ไม่ควรมองข้ามแพลตฟอร์มนี้ในการทำการตลาด ไปดู 3 ข้อสำคัญถ้าหากคุณต้องทำโฆษณาบนยูทิวป์ ที่ทาง Chinatopcargo รวบรวมมาฝากกัน ให้คุณสามารถทำโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากขึ้น
การรับรู้ที่ดีต้องสร้าง Action ได้
ข้อดีของ YouTube ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม โดยมีข้อดีคือการมีจุดประสงค์สำหรับทุกคน ที่เข้ายูทิวป์เพื่อต้องการดูวิดีโอ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่จับความสนใจจากผู้ชมไดดีกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 95 เลยทีเดียว โดยคุณไมเคิล จิตติวาณิชย? หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย ได้กล่าวว่า การจับความสนใจของยูทิวป์มีด้วยกัน 3 ส่วนคือ การมองเห็น การได้ยิน และระยะเวลาการเห็น ที่ทำให้โฆษณาบนยูทิวป์มีอัตราการดูจบสูง 19 เท่า กับความยาวของโฆษณา 15 – 45 วินาที เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มออนไลน์แบบอื่น ๆ ซึ่งจากข้อมูลของอัตราผู้ใช้ของคนสังคมเมืองและต่างจังหวัดจะเห็นได้ว่าแทบไม่ต่างกันเลย แสดงให้เห็นว่า YouTube สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมาก ทำให้เป็นข้อดีของการทำธุรกิจที่ทำโฆษณาบนยูทวิป์ ไม่ว่าจะเป้นขายของออนไลน์ ขายสินค้าจากการสั่งสินค้าจากจีน แต่อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงการสร้างการรับรู้ ถึงแม้ว่าจะสร้างการรับรู้ได้ แต่การสร้างการรับรู้ให้มีผลตอบกลับมาก็ต้องอาศัยของการทำคอนเทนต์ที่ดี
เข้าถึงได้ถูกที่และถูกเวลา
จำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มอย่างยูทิวป์มีผู้ใช้งานมากกว่า 1,000 ล้านคนต่อเดือน โดยยูทวิป์ได้จำแนกคนออกเป็น 3 กลุ่ม สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำลังมองหาสินค้า ดังนี้ ก่อนรู้ว่าอยากได้สินค้า กำลังมองหาสินค้า และต้องการสินค้าจริง ๆ จากการเก็บข้อมูลของทาง Google จากผลิตภัณฑ์ของ Google ได้แก่ Gmail, Google Maps, Android, Google Play, YouTube และ Chrome จากกลุ่มก่อนรู้ว่าอยากได้สินค้า สามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 6 ความรู้สึกคือ เรียนจบ แต่งงาน เปลี่ยนงาน รีไทร์ เริ่มต้นทำธุรกิจและซื้อบ้าน สำหรับกลุ่มที่มองหาสินค้า จะค้นหาข้อมูลผ่านกาใช้เสิร์จแอนจิ้นด้วยคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโดยตรง เช่น เสื้อผ้าจากการสั่งสินค้าจากจีน (กดดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่นี่) นำเข้าหรือสั่งสินค้าจากจีน เป็นต้น ซึ่งถ้าหากธุรกิจหรือผู้ประกอบการเข้าใจความรู้สึกหรือโมเมนต์เหล่านี้ และสามารถนำเครื่องมือเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค จะสามารถทำให้คุณสามารถส่งโฆษณาไปหาลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายได้ถูกที่ถูกเวลา และยูทิวป์ก็มี Call to Action ด้วยดัน 4 รูปแบบคือ แอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ ช็อปปิ้งและโลเคชั่น
วัดผลได้
การทำโฆษณาหรือแคมเปญทางธุรกิจ สิ่งสุดท้ายที่เป็นข้อสำคัญและต้องมีการทำทุกครั้งคือ การวัดผล ทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ ธุรกิจจะต้องทำการค้นคว้าข้อมูลเพื่อหาว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายสนใจอะไร เพื่อสามารถสร้างสรรค์คอเทนต์ให้ตรงกับความสนใจ สำหรับการทำโฆษณาไม่ได้ขึ้นอยู่กับความยาว แต่ขึ้นอยูากับเนื้อหาที่นำเสนอออกมามากกว่า โดยมีการสำรวจเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ใช้งานที่มีต่อโฆษณาบนยูทิวป์ ดังนี้
- การกดข้ามโฆษณาได้เป็นสิ่งที่ดี สามารถคิดเป็นร้อยละ 72
- ธุรกิจหรือแบรนด์ที่ยอมให้กดข้ามโฆษณาได้คิดเป็นร้อยละ 72
- โฆษณาบนยูทิวป์มีคุณภาพดีในแง่ของการเข้าถึง และตรงกับความสนใจ โดยคิดเป็นร้อยละ 74
- โฆษณาบนยูทิวป์มีส่วนที่ทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซ้อสินค้านั้น คิดเป็นร้อยละ 65
ในยุคที่โลกออนไลน์กำลังเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนในยุคนี้ รูปแบบของการดำเนินชีวิตและเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ก็ย่อมเปลี่ยนไปจากเดิม รวมถึงพฤติกรรมการซื้อขายก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นการปรับตัวจะเป็นสิ่งทำให้ธุรกิจอยู่รอด สามารถอ่านบริการการนำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าได้ที่นี
ขอบคุณข้อมูลจาก Marketing Oops