สินค้านำเข้าจากจีนกับเทรนด์อีคอมเมิร์ชมาแรงในปี 2019 

ธุรกิจอีคอมเมิร์ชดูเหมือนว่าจะแรงจนฉุดไม่อยู่ โดยเฉพาะในตลาดประเทศไทย ที่เรียกได้ว่าผู้บริโภคหันมาช็อปสินค้าหรือเลือกซื้อสินค้านำเข้าจากจีนผ่านออนไลน์กันมากขึ้น พฤติกรรมของผู้ที่บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างการหันมาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้เหล่าธุรกิจอีคอมเมิร์ชเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 150,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเติบโตโดยเฉลี่ยถึง 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเลยทีเดียว โดยในปี 2019 คาดว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ชจะมีการแข่งขันอย่างดุเดือดมากยิ่งขึ้น วันนี้ Chinatopcargo จะพาไปเจาะเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ชมาแรงในปีหน้ากัน

ทุกเส้นทางมุ่งการค้าออนไลน์ Priceza ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2020 คนไทย 84 เปอร์เซ็นต์จะเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และจะใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยสามารถแบ่งกิจกรรมหลักที่คนไทยนิยมใช้เวลากับอนเทอร์เน็ตคือ การเล่นโซเชียลมีเดีย, ค้นหาข้อมูล, รับส่งอีเมล, ดูวิดีโอหรือฟังเพลงออนไลน์ และข้อสุดท้ายคือการซื้อสินค้าออนไลน์ จะเห็นได้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ที่คนไทยใช้ล้วนแต่เปิดบริการหรือพัฒนา เพิ่มฟังก์ชั่นให้เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ให้มีความสะดวกและตอบโจทย๋ให้เหล่าผู้บริโภคสามารถใช้บริการซื้อขายสินค้าหรือสั่งสินค้านำเข้าจากจีนออนไลน์ เราไปดู 5 แพลตฟอ์มที่คนไทยใช้งาน และได้เพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับช็อปปิ้งออนไลน์กัน เช่น เสิร์จแอนจิ้นสุดฮิตของเราอย่าง Google เพิ่มฟีเจอรอย่าง  Google Shopping เข้ามา (อ่านบทความเรื่อง สั่งสินค้าจากจีนกับ Google Shopping Ads ที่ไม่ควรพลาด คลิกเลย) โซเชียลมีเดียสุดฮิตสำหรับคนไทยอย่าง Facebook ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์อย่าง Facebook Marketplace มาช่วยให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์สะดวกและตอโจทย์มากยิ่งขึ้น แอปพลิเคชั่นแชทสุดฮิตอย่าง Line ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์เกี่ยวกับการจ่ายเงินอย่าง Integration with e-Payment ให้การจ่ายเงินผ่านโลกออนไลน์สะดวกสบายและตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น แม้แต่เหล่าแพลตฟอร์มธนาคารต่าง ๆ ที่ก็มีการพัฒนาและเพิ่มฟีเจอร์ในการจ่ายเงินในการซื้อสินค้าหรือสั่งสินค้านำเข้าจากจีนออนไลน์ได้ และแพลตฟอร์มด้านมาร์เก็ตเพลส ที่เป็นเหมือนตลาดให้เหล่าร้านค้าออนไลน์มาเปิดร้านขายสินค้ากัน ที่มีการพัฒนาแพลตฟอร์มให้เป็นมากกว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ช

การแข่งขันจะดุเดือดมากขึ้น ร้านค้าออนไลน์จะมีการแข่งขันที่ดุเดือนและท้าทายมากขึ้น เพราะธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่เพียงแต่ร้านค้าในประเทศไทยที่แข่งกันอย่างดุเดือน แต่ร้านค้าออนไลน์จากต่างประเทศ จะเห็นได้จากคนไทยที่ชอบการสั่งสินค้าหรือสั่งสินค้านำเข้าจากจีน ดังนั้นร้านค้าจากต่างปะเทศ จะเข้ามาแข่งขันกับร้านค้าในประเทศไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบให้กับลูกค้า เพราะร้านค้าต่าง ๆ จะต้องแข่งขันกันมากขึ้น โดยจะมีการสั่งสินค้าหรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศหรือสินค้าแบบ cross border ยกตัวอย่างสินค้าที่คนไทยที่นิยมซื้ออย่าง สินค้ากีฬา แว่นตา เครื่องประดับ อุปกรณ์มือถือแท็บเล็ต เป็นต้น

การชำระเงินออนไลน์แบบ e-Payment จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2019 รูปแบบการชำระเงินออนไลน์จะเติบโตอย่างมากขึ้น ด้วยการผลักดันในหลาย ๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ธนาคาร ที่พยายามผลักดันและพัฒนาแพลตฟอร์มของการชำระเงินออนไลน์ให้สามารถตอบโจทย์และนำไปสู่การชำระเงินผ่านช่องทางอิลเ็กทรอนิกส์มากขึ้น อย่างในปี 2018 นี้ที่ผ่านมา จะเห้ฯได้จากร้านค้า ธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงธนาคารต่างก็ออกกลยุทธ์โปรโมชั่น ให้ลูกค้าชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์อย่าง e-Wallet ที่ให้ส่วนลดหรือได้แคชแบล็กคืน เป็นต้น อย่างธุรกิจอีคอมเมิร์ชจีน เป็นประเทศที่ชำระเงินซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นชำระเงินออนไลน์อย่าง Alipay เป็นต้น  
ร้านค้าออนไลน์ที่มีช่องทางเดียวจะไม่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่าร้านค้าที่หลากหลายช่องทาง ทำให้ร้านค้าที่มีกลากหลายช่องทาง จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น เพราะคนไทยไม่ได้ใช้งานหรืออยู่เพียงแค่แพลตฟอร์มเดียว แต่คนไทยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มที่หลายหลาย ดังนั้นร้านค้าที่สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าหรือผู้บริโภคได้หลากหลายช่องทางมากกว่า ย่อมสร้างข้อได้เปรียบและทางการแข่งขันได้มากกว่า อย่างลูกค้าของธุรกิจอยู่ตรงไหน ธุรกิจหรือแบรนด์ก็เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ลูกค้าใช้ชีวิต และต้องสามารถเชื่อมต่อทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หากใครที่กำลังมองหาแหล่งซื้อสินค้าหรือสินค้านำเข้าจากจีน คลิกเลย