สั่งสินค้าจากจีนกับ Cross-Border e-Commerce ที่ไม่ควรมองข้าม
การเติบโตของธุรกิจ e-Commerce นับวันยิ่งเติบโตมากขึ้น และก้าวเข้ามามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากจะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจทุกระดับ ยังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแต่ละภาคส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างธุรกิจนำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าจากจีนกับธุรกิจที่ให้บริการด้านการขนส่ง อาทิ ธุรกิจที่ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า การจัดเก็บหรือคลังสินค้า การจัดการยกขนสินค้า ทำให้บริษัทหรือองค์กรที่ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์ ต่างต้องเร่งปรับตัว พัฒนารูปแบบการบริการให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้าอย่าง การสั่งสินค้าจากจีน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ตลอด
ธุรกิจแบบอีคอมเมิร์ชถือเป็นช่องทางการค้าที่มีส่วนผลักดันของการเติบโตและพัฒนาของระบบเศรษฐกิจ ที่ไม่ได้ถูกจำกัดแค่บางพื้นที่ บางประเทศ แต่เติบโตไปถึงเศรษฐกิจระดับโลก ที่มีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ธุรกิจการค้าออนไลน์รูปแบบแบบ e-Commerce มีทิศทางการเติบโตสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งการดำเนินธุรกิจระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) การค้าขายระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ (B2B) หรือแม้กระทั่งระหว่างผู้ประกอบการรายย่อยหรือผู้บริโภคกับผู้บริโภค (C2C)
การคาดการณ์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่แห่งวงการ e-Commerce อย่าง Alibaba ที่ทีการประเมินว่า Cross – Border e-Commerce ตลาดการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ช จะมีมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 และถือเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจสตาร์ทอัพหรือ SMEs ไทย ที่จะก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการเติบโตของการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทาง e-Commerce ในตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกับประเทศจีน ที่ผู้ประกอบการชาวไทยนิยมทำการค้าระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสินค้าจากจีน ชิปปิ้งด้วยการสั่งสินค้าจากจีน นำเข้าสินค้าจากจีน (สามารถเข้ามาดูบริการชิปปิ้งสินค้าจากจีนได้ที่นี่) หรือแม้แต่ชาวจีนเองที่นิยมสินค้าจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการซื้อของผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคจีนนิยมซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ติด 1 ใน 10 ของประเทศที่มีกรซื้อขายออนไลน์ของโลก โดยปกติคนจีนจะซื้อสินค้าออนไลน์ในรูปแบบ e-Commerce ผ่านเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ยอดนิยมในประเทศ เช่น Taobao และมีการเพิ่มช่องทางการซื้อขายสินค้าใหม่เข้ามาอย่าง CBEC (Cross Border E-Commerce) ผ่านเว็บไซต์อย่าง Tmall Global ของ Alibaba เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนจีนในการซื้อขายสินค้าจากต่างประเทศผ่านทางออนไลน์พิเศษที่ไม่ต้องมีการตรวจเข้มกับสินค้าที่เข้ามาในจีนนั่นเอง และยังเป็นการซื้อขายจากธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) และจากธุรกิจสู่ธุรกิจ (B2B)
สำหรับขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศผ่านช่องทาง CBEC นั้นมีความแตกต่างกับการซื้อขายของออนไลน์ปกติ โดยการซื้อขายของออนไลน์แบบปกติจะมีคลังสินค้าอยู่ในประเทศจีนหรือนอกประเทศจีน ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในประทศจีนก็ได้นั่นเอง แต่การซื้อขายผ่านทางช่อง CBEC คลังสินค้าจะยู่ในประเทศจีน ผู้บริโภคจีนจะทำการสั่งซื้อหรือมีคำสั่งซื้อสินค้ามาจากแพลตฟอร์มข้ามแดนที่เรียกว่า Cross Border E-Commerce Platform และหลังจากนั้นคำสั่งซื้อจะถูกส่งผ่านไปยังหน่วยงานศุลกากรจีนและส่งต่อไปยังต่างประเทศ เพื่อแสดงถึงความต้องการในการนำเข้าสินค้าชนิดที่ลูกค้าสั่งเข้ามาเก็บไว้ในคลังสินค้าประเทศจีน (Bonded Warehouse) แล้วสินค้านั้นจะถูกส่งไปยังลูกค้าผ่านกลุ่มที่ให้บริการด้านขนส่งหรือโลจิสติกส์ โดยมีระยะเวลาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มสั่งซื้อไปจนถึงมือผู้บริโภคใช้เวลาเพียง 7 วัน ในขณะที่การสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์แบบปกติจะใช้เวลาถึง 15 วัน
อย่างไรก็ตามการบริการด้านโลจิสติกส์ ด้านการขนส่งสินค้า การบรรจุภัณฑ์สินค้า การจัดแต่งหีบห่อสินค้าให้ การจัดเก็บสินค้า จะต้องมีการยกระดับไปพร้อม ๆ กับความต้องการและการเข้าถึงที่มากขึ้นด้วย เพราะเมื่อผู้ผลิตสินค้าหรือผู้ขายสินค้ามีช่องทางการขายที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากและหลากหลายมากขึ้น ตลาดเติบโตขึ้น ความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ดังนั้นจะต้องมีการยกระดับปริมาณการจัดการสินค้า ความรวดเร็ว และความพร้อมในการตอบรับต่อความต้องการของลูกค้าที่มีมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิและการดำเนินงานให้สูงขึ้นด้วย หลาย ๆ ธุรกิจจึงต้องมองหาเทคโนโลยีที่สามารถเข้ามาช่วยในการปฏิบัติการให้ได้ประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลมากขึ้น เช่น ระบบซอฟแวร์ ที่ต้องดูและพัฒนาระบบให้มีความสามารถต่อการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจ เช่น ระบบการจัดกรคลังสินค้าและระบบเติมสินค้าอัตโนมัติ ระบบการลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ ระบบหยิบยกสินค้าอัตโนมัติ ที่เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงาน เพื่อก่อให้เกิดการทำงานและดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้ามาของธุรกิจ Cross Border e-Commerce ที่มีผลต่อการเร่งพัฒนาโซลูชั่นในการติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เพราะสินค้าที่ผู้บริโภคสั่งซื้อส่วนมากจะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง มีการขนส่งต่อเนื่องในระยะทางไกลและผ่านผู้บฏิบัติการหลายราย ซึ่งต้องสร้างเชื่อมั่นและให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับการจัดส่งในทุกขั้นตอนอย่างปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ดังนั้นในเรื่องของความสามารถในการตรวจสอบขั้นตอนการจัดส่งสินค้าได้แบบ end-to-end และระบบการแจ้งเตือนสถานะสินค้าอัตโนมัติ จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ที่ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าจะต้องมีการพัฒนาหรือเลือกโซลูชั่นการติดตามสินค้าที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างและเพิ่มความเชื่อใจ มั่นใจให้แก่ลูกค้า เพราะถ้าธุรกิจ e-Commerce สามารถไว้วางใจในประสิทธิภาพของการการทำงานของบริษัทขนส่งแล้ว พวกเขาจะกลายเป็นผู้ใช้บริการไปในระยะยาวนั่นเอง
การบริหารจัดการสต็อกสินค้า การจัดเก็บ และการเติมสินค้าในคลังสินค้าให้เพียงพอต่อการขายอยู่เสมอนับเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการหรือผู้ขายของ สินค้าออนไลน์จะต้องให้ความสำคัญ เพราะเมื่อสินค้ามีการไหลเวียนมากขึ้น ผู้ประกอบการจะต้องมีแนวทาง ขั้นตอนต่าง ๆ ในการจัดการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นระบบในการเติมสินค้าอัตโนมัติ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกออนไลน์ (e-Retailer) ขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ไม่คลังสินค้าเป็นของตัวเอง ในปัจจุบันผู้ค้ารายใหญ่หรือแบรนด์สินค้าที่กำลังเติบโตกำลังหันมาให้ความสนใจและใช้บริการรูปแบบคลังสินค้าหลายราย (Multi-Client Warehouse) มากขึ้น เนื่องจากโซลูชั่นนี้มีส่วนช่วยในเรื่องการลดต้นทุนของคลังสินค้าได้มาก เพราะลดการก่อสร้างคลังสินค้าหรือเช่พื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่เกินความจำเป็น นอกจากนี้ผู้ให้บริการด้านคลังสินค้าหลายรายยังพ่วงบริการด้านอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มอีกด้วย เช่น บริการจัดส่งสินค้าในช่วงสุดท้าย (Last-Mile Delivery) บริการเติมสินค้า บริการบรรจุภันฑ์สินค้า ติดป้ายสินค้าและบาร์โค้ด บริการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า เป็นต้น ทำให้ฝั่งผู้ประกอบการค้า e-Commerce ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ได้รับประโยชน์ในการขยายตลาดหรือขายสินค้าไปยังต่างประเทศภายใต้การลงทุนที่มีประสิทธิภาพทั้งเรื่องราคาและการดำเนินงาน และยังช่วยสร้างความประทับใจจากการจัดส่งสินค้าที่ใช้เวลาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้สร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้กลายเป็นจุดแข็งที่ช่วยให้ตลาดขยายตัวได้รวดเร็วขึ้น
การเข้าถึงเทคโนโลยีที่มากข้นทำห้มีการเติบโตของธุรกิจการค้าออนไลน์ในกลุ่ม Cross-Border e-Commerce มากขึ้น และมความต้องการในการขนส่งสินค้าแบบ e-Commerce ไปยังตลาดระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะตลาดแระเทศจีนและเอเชียแปซิฟิก การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจในภมิภาค ส่งผลต่อค่านิยมและพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งการที่ผู้บริโภคไม่สามารถหาซื้อสินค้าภายในประเทศหรือท้องถิ่นของตัวเองได้ หรือแม้แต่การซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่มีราคาโดยรวมถูกกว่า ก็ล้วนเป็นปัจจับที่ช่วยผลักดันให้ตลาดการค้าออนไลน์ระหว่างประเืศเติบโตและเป็นที่ต้องการอย่างมากขึ้น โดยแนวโน้มการเติบโตนี้จะเห็นได้ว่าหลาย ๆ บริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งชั้นนำของโลกต่างได้ลงนามสัญญาจองพื้นที่ระวางสินค้าไว้ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เส้นทางหลากหลายมากขึ้น เป็นต้น
แม้ว่าการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศจะมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ก็มีข้อจำกัดในบางประเทศหรือในแต่ละประเทศเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายหรือระเบียบในเรื่องของทางศุลกากรที่แตกต่างกันออกไป เช่น การควบคุมมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของสินค้า การชำระเงินระหว่างประเทศ การจัดการด้านภาษี การนำเข้า–ส่งออก เช่น การสั่งสินค้าจากจีน การนำเข้าสินค้าจากจีน หรือในบางประเทศอาจมีข้อกำหนดว่าสินค้าที่ขนส่งเข้าไปยังประเทศปลายทางต้องมีฉลากติดเป็นภาษาท้องถิ่น เป็นต้น อย่างไรก็ตามก็มีแนวโน้มที่ดีและส่งผลด้านบวกต่ออุตสาหกรรมฯ เป็นอย่างมาก การเติบโตของธุรกิจ e-Commerce ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ล้วนแต่ช่วยผลักดัน ส่งเสริมผู้ให้บริการในแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ต้องมีการพัฒนา ปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อสามารถดำเนินงาน ขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และต้องตอบรับต่อความค้องการและเปลี่ยนแปลงของลูกค้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะการค้าอย่าง Cross-Border e-Commerce ที่ผู้ประกอบกาารชาวไทยไม่ควรมองข้าม เพราะในอนาคตคุณอาจไม่ต้องสั่งสินค้าจากจีนหรือนำเข้าสินค้าจากจีนเพียงอย่างเดียว คุณอาจหาเส้นทางในการส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เพราะการค้าแบบ Cross-Border e-Commerce จะทำให้เกิดผลดีและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ e-Commerce และอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า โลจิสติกส์ หรือด้านอื่น ๆ โดยรวมต่อไป สำหรับผู้ประกอบการกำลังมองหาหรือต้องการสั่งสินค้าจากจีนหรือต้องการนำเข้าสินค้าจากจีน chinatopcargo ก็มีบริการด้านการนำเข้าสินค้ามาให้ได้เลือกใช้บริการ ที่ราคาได้มาตรฐานตามสากล และทีมงานคอยให้บริการอย่างมืออาชีพ เพราะเราคือบริษัทนำเข้าสินค้าอันดับหนึ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการการสั่งสินค้าจากจีนอย่างคุณภาพ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการนำเข้าหรือสั่งสินค้าจากจีนได้ที่นี่