สั่งสินค้าจากจีนกับ 6 รูปแบบโฆษณาออนไลน์ที่คนไม่ชอบ

ช่องทางออนไลน์กลายเป็นเครื่องให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ทำธุรกิจกันมากขึ้น และจำนวนไม่น้อยที่ธุรกิจนั้นไม่มีหน้าร้านอีกต่อไป แต่หันมาใช้หน้าร้านบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น ในการดำเนินธุรกิจทุกประเภท เช่น ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่หาสินค้ามาขายเองหรือการสั่งสินค้าจากจีน การโฆษณาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คนรู้จักและสร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจ การทำสื่อโฆษณานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดที่จำเป็นอย่างมาก เพราะคุณจะต้องหาทางให้คนหรือกลุ่มเป้าหมายมาให้คนรู้จักสินค้าและบริการของคุณ เพราะการดำเนินธุรกิจคุณจะต้องใช้วิธีในการเรียกความสนใจให้มาสนใจธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณ เพื่อทำให้ลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หรือธุรกิจมาสนใจสินค้าและบริการ หรือเปลี่ยนให้มาเป็นลูกค้า

ธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่เป็นที่นิยม เช่น ธุรกิจออนไลน์อย่างขายของออนไลน์ สั่งสินค้าจากจีน การนำเข้าหรือสินค้าพรีออเดอร์ เป็นต้น แน่นอนว่าธุรกิจเหล่านี้ต้องใช้เครื่องมือออนไลน์ในการดำเนินธุรกิจ การทำโฆษณาก็เช่นกันก็ต้องผ่านพื้นที่ออนไลน์เช่นกัน ในการทำโฆษณาธุรกิจต่างต้องแข่งขันกันไม่ต่างจากการทำโฆษณาบนสื่อหลัก เพื่อดึงความสนใจให้มาที่ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณ ดังนั้นทำให้หลาย ๆ ธุรกิจมีการซื้อโฆษณาผ่านเจ้าของสื่อ รวมถึงเจ้าของสื่อก็ขายโฆษณาในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการ อย่างที่หลาย ๆ คนเห็นบนเหล่าเครื่องมือสื่ออนไลน์ที่ธุรกิจทำการซื้อโฆษณา ซึ่งในการทำโฆษณาบนออนไลน์ก็มีทั้งที่กลุ่มเป้าหมายชอบและไม่ชอบ เช่นเดียวกับการทำโฆษณาแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะกับโฆษณาที่ผู้บริโภคไม่สามารหลีกเลี่ยงได้ และทำให้เกิดประสบการณ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคนั้นแย่ลงไปอีก วันนี้ Chinatopcargo จะพาไปดู 6 รูปแบบโฆษณาออนไลน์ ที่ธุรกิจหรือแบรนด์ทำออกมาแล้วผู้บริโภคไม่ชอบสุด ๆ ไปเลย ดังนี้

1. Pop – up Ads

โฆษณาแบบ Pop – up Ads เป็นรูปแบบโฆษณาที่มีมานาน โดยส่วนใหญ่ที่คนจะเห็นโฆษณาแบบนี้ ที่จะมี Pop-up Banner โผล่ขึ้นมา ลองนึกถึงเวลาที่คุณกำลังเข้าไปดูและอ่านคอนเทนต์ต่าง ๆ อยู่ เมื่ออ่านไปได้สักพักก็จะมีแบรนเนอร์โฆษณาโผล่ขึ้นมา ซึ่งการโผล่ขึ้นมาแบบนี้ไม่ได้สร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย แต่สร้างความรำคาญให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกับโฆษณาแบบ Pop – up Ads ที่ไม่มีปุ่มกดปิดโฆษณาหรือหาปุ่มปิดได้ยาก ทำให้จะปิดเท่าไหร่ก็ปิดไม่ได้สักที ทำให้เกิดความรู้สึกแย่อย่างมาก โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการทั้งหลายมักไม่เข้าใจและเลือกใช้รูปแบบในการทำโฆษณาแบบนี้เป็นจำนวน โดยเฉพาะกับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นและต้องการสร้างการรับรู้ และที่เห็นได้บ่อย ๆ กับธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ ร้านค้าที่กำลังเปิดร้านในการนำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าจากจีน ที่ร้านยังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้เกิดความรู้สึกและสร้างการรับรู้ที่ไม่ดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจของคุณอีกด้วย

2. วีดิโอที่โผล่ออกมาหรือ Mid – roll

โฆษณารูปแบบนี้กำลังได้รับความนิยมจากหลาย ๆ แบรนด์ แต่ความนิยมก็ใช่ว่าจะสร้างความรู้สึกพึงพอใจให้กับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายเสมอไป โดยรูปแบบโฆษณาแบบนี้ Youtube เคยทำมาก่อน และ Facebook ก็ได้มีฟังก์ชั่นนี้ออกมา สาเหตุที่กลุ่เป้าหมายหรือผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้สึกแย่กับรูปแบบโฆษณาแบบนี้ ให้คุณนึกถึงขณะคุณกำลังดูหรือเพลิดเพลินกับการดูคอนเทนต์วิดีโอ แต่จู่ ๆ ก็ถูกตัดเข้าโฆษณาทันที ทำให้ผู้ชมเสียอรรถรสในการดูวีดิโออย่างมาก และบางโฆษณาที่ไม่สามารถกดปิดโฆษณานั้นได้ จนกว่าคุณจะดูจบ ทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคเปลี่ยนคอนเทนต์ในการดูหรือมีประสบการณ์ต่อแบรนด์ที่ไม่ดี

3. Unskipablw Ads

โฆษณารูปแบบนี้มักจะมาพร้อมกับรูปแบบโฆษณาแบบวิดีโอ ที่ส่วนใหญ่จะเจอในยูทิวบ์ ลักษณะของโฆษณารูปแบนี้คือห้ามกดข้ามหรือบังคับให้ดูจนจบ ซึ่งรูปแบบของโฆษณานี้ทำให้ประสบการณ์ในการบริโภคคอนเทนต์นั้นแย่มาก แถมทำให้ความรู้สึกต่อแบรนด์หรือธุรกิจนั้นเสียไปด้วย เพราะไม่มีหีือสร้างทางเลือกอื่นให้กับผู้บริโภคได้เลย นอกจากโฆษณานั้นจะจบ ถึงจะได้ดูคอนเทนต์ที่ต้องการ

4. Prank Ads

โฆษณาแบบ Prank Ads ไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่ นาน ๆ จะมีออกมาให้คุณเห็น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วแบรนด์หรือธุรกิจจะไม่ทำโฆษณาในรูปแบบนี้อยู่แล้ว เพราะไม่ผลดีต่อแบรนด์หรือธุรกิจใด ๆ เลย มีแต่ผลเสียและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ให้กับแบนด์หรือธุรกิจเสียมากกว่า โดยโฆษณารูปแบบนี้จะมีลักษณะที่แกล้งผู้บริโภค เช่น ขณะที่คุณกำลังดูคอนเทนต์อะไรสักอย่างอยู่ แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีการหลอกให้กลัว ตกใจ หรือมีเสียงดังเกิดขึ้นขณะดูคอนเทนต์อยู่ ทำให้เกิดอาการตกใจ เสียขวัญ ที่สร้างความรบกวนและความรำคาญใจทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้างอีกด้วยหากคุณกำลังบริโภคคอนเทนต์อยู่ในที่สาธารณะแล้วอยู่ดี ๆ โฆษณารูปแบบ Prank Ads โผล่ขึ้นมา ผู้ประกอบการมือใหม่ทั้งหลาย ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจต่าง ๆ ทั้งขายของออนไลน์ นำเข้าสินค้าหรือสั่งสินค้าจากจีน อย่าเข้าใจผิด ๆ จนเผลอไปใช้โฆษณาในรูปแบบนี้ เพราะไม่อย่างนั้นธุรกิจคุณอาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงเริ่มต้นอีกต่อไปก็ได้

5. Distract Banner Ads

รูปแบบของโฆษณาที่ทำให้คนเกลียดอย่างมาก เพราะรูปแบบโฆษณานี้มีลักษณะคือการลิงก์ออกจากเว็บไซต์เดิมไปยังหน้าโฆษณา เช่น คุณกำลังอ่านคอนเทนต์อยู่ แล้วโฆษณาแบบ Distract Banner Ads โผล่ขึ้นมา การดูคอนเทนต์ของคุณจะถูกรบกวนโดยการลิงก์ออกไปยังหน้าโฆษณาก่อนที่จะกลับมายังหน้าคอนเทนต์ของคุณ ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เกิดความรู้สึกไม่ดี และเสียหายไปมากกว่านั้นคือไม่รู้สึกอยากอ่าน ดูหรือเสพคอนเทนต์นั้นต่อแล้วกดปิดหรือทิ้งหน้าเว็บไซต์นั้นไปทันที ศึกษาข้อมูลในการทำหรือลงโฆษณาบนโลกออนไลน์ให้ดี โดยเฉพาะกับธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นอย่างการนำเข้าสินค้าหรือรับสั่งสินค้าจากจีน ที่ไปหลงทำโฆษณารูปแบบนี้ออกมา ไม่งั้นคุณเสียกลุ่มลูกค้าไปอย่างแน่นอน

6. Ads ที่กดปิดแล้วพาออกไปไหนก็ไม่รู้

โฆษณารูปแบบนี้ไม่แปลกที่ผู้บริโภคหรือคนส่วนใหญ่จะพากันไม่ชอบ เพราะเป็นโฆษณาที่โผล่ขึ้นมา เมื่อคุณกดปิด ก็พาไปไหนก็ไม่รู้ หรือหาวิธีกดปิดไม่ได้จากหน้านั้น ๆ ทำให้ผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายต้องออกจากหน้าเว็บไซต์ในขณะที่กำลังเข้ามาดูหรือชมคอนเทนต์ แต่ธุรกิจหรือแบรนด์จะไม่ทำโฆษณาในรูปแบบนี้ออกมา

การทำธุรกิจออนไลน์อย่าง ขายของออนไลน์ สั่งสินค้าจากจีน นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ (สามารถเลือกใช้บริการนำเข้าสินค้ากับบริษัทมืออาชีพได้ที่นี่) การทำโฆษณาออนไลน์เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะผู้ประกอบการจะต้องทำโฆษณาเพื่อให้คนรู้จักเกี่ยวกับแบรนด์ สินค้าหรือบริการของคุณก่อน ซึ่งรูปแบบโฆษณาก็มีหลากหลายทั้งที่ทำแล้วเกิดผลดี สร้างความพอใจ และมีอีกมากมายที่ทำออกมาแล้วสร้างความน่ารำคาญ จนทำให้เกิดประสบการณ์ต่าง ๆ ในออนไลน์นั้นแย่ลง ดังนั้นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ หรือนักการตลาด จะต้องศึกษาและเลือกเครื่องมือ และการทำโฆษณาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหรือทำลายแบรนด์ เพราะหากส่งผลที่ไม่ดีต่อภาพลักษณ์แบรนด์หรือธุรกิจ หากโชคดีก็แก้ไขกลับมาได้ใหม่ แต่ถ้าโชคไม่ดีธุรกิจของคุณอาจจะอยู่ได้ไม่นานเลยทีเดียว อ่านบทความเรื่อง สั่งสินค้าจากจีนกับข้อผิดพลาดในการทำคอนเทนต์ที่ส่งผลต่อยอดขายธุรกิจคุณ ได้ที่นี่