1.Tiktok

แพลตฟอร์มสัญชาติจีน ที่กำลังมาแรงแห่งยุค เป็น Content Discovery Platform ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองคน Gen Z ซึ่งเป็นทั้ง Content Creator และผู้เสพสื่อในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ เหตุที่คนยุคใหม่มีความสนใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้นมาก โดยคน Gen Y มีสมาธิหรือความสนใจเพียง 12 วินาที ส่วน Gen Z เหลือ 8 วินาที นั่นจึงเป็นชื่อของแพลตฟอร์ม Tiktok ที่เป็น Short Video Platform โดยผู้ใช้สามารถโพสต์คลิกวิดิโอสั้นๆ ได้ไม่เกิน 15 วินาที สำหรับผู้ใช้แพลตฟอร์มนี้ในเมืองไทย พบว่าส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ย 15 ปี อย่างไรก็ตาม จีน ยังคงเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ มีสิ่งประดิษฐ์มากมายที่เกิดขึ้นโดยชาวจีน แต่ดังไกลไปทั่วโลก อ่านเพิ่มเติมได้ที่ นวัตกรรมสร้างสรรค์โลกโดยคนจีน

2.Snapchat

เป็นแอปวิดิโอแชทสัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กวัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงานตอนนั้น ก่อตั้งโดยอีวาน สปีเกล ชายหนุ่มผู้สร้าง Snapchat ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ และแม้จะเปิดตัวในปี 2011 แต่ Snapchat ก็ขึ้นแท่นแพลตฟอร์มที่เติบเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับ Facebook ที่เปิดตัวในปี 2004, Twitter (2006) และ Instagram (2010) โดยในปี 2015 Snapchat มีจำนวนผู้ใช้อยู่ที่ 200 ล้าน Users ต่อเดือน และ 400 ล้าน Users ต่อวัน ช่วงอายุเฉลี่ยของการเล่นอยู่ที่ 13-34 ปี ซึ่งเป็นวัยรุ่นและเป็นตลาดที่แอปแชทอื่นๆ ไม่สามารถเจาะเข้าได้ โดย Snapchat ใช้สำหรับแชทหากันได้โดยไม่ใช้วีดิโอ ฟังก์ชั่นของมันใช้ส่งข้อความได้ทั้งข้อความ ภาพ และวีดิโอ โดยจำกัดความยาวของวีดิโออยู่ที่ 15 วินาที

3.Instagram

เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าและเครื่องมือสื่อสารโฆษณาแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดย 60% ของ 10 Top Brand Content ใน Instagram เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าใน Instagram คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวมเรื่องความสวยความงาม ขณะที่ Story Ad เริ่มมีการโฆษณาบน Instagram Story

อีกเครื่องมือสำคัญคือฟีเจอร์ IG Stories ซึ่งเปิดใช้งานในปี 2016 มีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 500 ล้านคนต่อเดือน ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพและวิดิโอสั้นๆ ได้ ก็ถือเป็นเครื่องมือการตลาดกระตุ้นการขายแบบด่วนได้ดี เหมาะกับกลยุทธ์ ‘โปรไฟไหม้’ และจำกัดเวลาให้ต้องตัดสินใจซื้อ

4.Twitter

เป็นช่องทางสื่อสารทางสังคมออนไลน์ ที่เติบโตเร็วมาก จุดเริ่มต้นของ Twiter เกิดขึ้นเพื่อใช้เป็นช่องทางการสื่อสารทางการตลาดในสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่บริษัทต่างๆ จะมีบัญชีผู้ใช้งานใน Twitter อย่างน้อย 1 Account ส่วนแพลตฟอร์มนี้ในเมืองไทย ก็ถือว่าโตเร็วสูงสุดเช่นเดียวกัน โดยติดอันดับ 5 ของโลกที่มีผู้ใช้สูงสุด ซึ่ง 68% เป็นกลุ่ม Millennials ในขณะที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นจำนวนสูงถึง 680 ล้านคน หนึ่งในความท้าทายของแพลตฟอร์มดังกล่าวคือ ยังไม่มีแบรนด์ใดที่สามารถครองความเป็นเจ้าของจำนวน Top Retweet ได้มากเกิน 1 เดือน ดังนั้น Platform นี้ จึงยังไม่ได้มีเจ้าตลาดที่ชัดเจนนัก

5.Facebook

สถิติ Facebook ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 มีผู้ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นจำนวน 2.38 พันล้านคนต่อเดือน เพิ่มสูงขึ้น 2.5% จากไตรมาสที่ 4 เมื่อปี 2018 และตัวเลขผู้ใช้รายวันเพิ่มอยู่ระดับที่ 1.56 พันล้านคนต่อวัน แต่ Facebook แทบจะหยุดการเติบโตที่อเมริกามาพักใหญ่แล้ว ส่วนยุโรปก็ไม่ค่อยโตมาก มีแต่ในทวีปเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น ที่ยังเติบโตได้ดีอยู่ กับในพื้นที่ส่วนอื่นๆของโลก ทว่า Facebook ยังครองตำแหน่งแพลตฟอร์ม Social Media อันดับ 1 ของไทย มีผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 53 ล้านบัญชี Mark Zuckerberg กล่าวไว้ว่าต่อไปคือยุค The Future is Private

เนื่องจากคนมีแนวโน้มอยากพูดคุยในกลุ่มที่ตัวเองสนใจมากกว่าพูดคุยแบบสาธารณะ จึงมีการแนะนำกรุ๊ป ที่ผู้ใช้งานสนใจให้เข้าร่วมกลุ่มได้ง่ายขึ้นรวมถึงการสร้าง Fanpage ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำการตลาด ของกลุ่มบริษัท ไปยังจนถึงการตลาดส่วนบุคคล อาทิ Account Official อย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เช่น ร้านขายของออนไลน์ นอกจากเป็นการขายสินค้าแล้ว ยังขายผลิตภัณฑ์บริการของผู้ให้บริการต่างๆไม่ว่าจะเป็นบริการรถเช่า บริการขนส่งมวลชน บริการพรีออร์เดอร์สินค้า บริการนำเข้าสินค้าจากจีน 1688 เป็นต้น 

6.Pinterest

เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมภาพต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกเอามาไว้ที่เดียว โดยภาพนับล้านสามารถถ่ายทอดความหมายและความรู้สึกได้มากกว่าคำพูดหรือตัวอักษรเป็นพันๆ คำ ด้วยเหตุนี้ Pinterest จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ไอเดียและแรงบันดาลใจกับผู้คนนับล้านบนโลกใบนี้ ใครจะไปรู้ว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวจะโด่งดังเป็นพลุแตกนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2010 โดยผู้ใช้สามารถปักหมุดบนคอนเทนท์ที่ตนสนใจ และเมื่อกันยายน 2015 Pinterest มีผู้ใช้กว่า 100 ล้านคน ถือเป็นอีกหนึ่ง Social Media ที่กำลังมาแรงในกลุ่มของผู้หญิง เพราะสามารถปักหมุดแฟชั่นที่สาวๆ สนใจ และย้อนกลับมาดูได้อย่างง่ายดาย ส่วนภาพก็ไม่มีข้อจำกัดด้านภาษาอีกด้วย

7.Tumblr

อาจจะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีการใช้งานยากเล็กน้อย แต่ก็มีความน่าสนใจอย่างมาก คล้ายกับการเขียนบล็อก โดยผู้ใช้สามารถใช้รูปแบบการโพสต์ได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปแบบ gif, png, flv หรือ mp4 ด้วยความที่ไม่จำกัดรูป ทำให้แบรนด์สามารถทำคอนเทนท์ได้ตามง่ายและตามต้องการ และยังสามารถ Reblog ที่คล้ายกับการ Retweet ใน Twitter ได้อีกด้วย ส่งผลให้ Tumblr ซึ่งก่อตั้งโดย David Karp ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2007 มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 200 ล้านกว่าบล็อกในปัจจุบัน