ชิปปิ้งหรือผู้ให้บริการนำเข้าสินค้า หากมองย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับเมืองในยุโรป ที่หันมาซื้อรถโดยสารขนส่งไฟฟ้าและห้ามการใช้รถดีเซลในเมือง
ขณะเดียวกันผู้ผลิตรถยนต์ เช่น ฟอร์ด ก็ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Mustang Mach-E และ e-Scooter Riding ซึ่งสามารถทดแทนการเดินทางด้วยรถยนต์และลดความแออัดและการเติบโตอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขณะที่ภาคการขนส่งอื่นๆ ต่างมีการเติบโตแต่ค่าใช้จ่ายกลับลดลง จึงถือได้ว่าในปี 2019 นั้นเป็นปีที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงด้านการขนส่ง ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ และต่อไปนี้คือ 10 เทรนด์ด้านการขนส่งที่น่าจับตามอง ที่ทาง Chinatopcargo ได้รวบรวมข้อมูลมา
- บริษัทใหญ่ๆ เริ่มซื้อรถบรรทุกไฟฟ้ามากขึ้น : อาทิ Amazon ได้สร้างความน่าประหลาดใจเมื่อประกาศว่าจะมีการซื้อรถตู้ไฟฟ้า 1 แสนคันจากสตาร์ทอัพ Rivian ในขณะที่ USP, FedEx และ DHL ซื้อรถบรรทุกไฟฟ้าในจำนวนน้อยกว่า ส่วน Anheuser-Busch สั่งซื้อรถบรรทุกไฟฟ้า 21 BYD ในปีนี้ ซึ่งดูเหมือนเป็นคำสั่งซื้อที่มากที่สุด สำหรับรถบรรทุกไฟฟ้าชั้น 8 ในประเทศสหรัฐอเมริกา
- แผนการขนส่งในเมืองอย่างยั่งยืนมาถึงอเมริกา : ในขณะที่เมืองในยุโรปได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำ ‘Greenzones’ ลอนดอนประสบความสำเร็จอย่างสูงในการลดมลพิษทางอากาศและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่วนเดือนที่แล้วลอสแองเจลิสได้เปิดตัวแผนการขนส่งที่ยั่งยืน รถขนส่งโดยสารในเมืองทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนให้เป็นรถไฟฟ้าภายในปี 2028
- สกูตเตอร์กลายเป็นการขนส่งกระแสหลัก : ในปีนี้ ผู้ขับขี่สกูตเตอร์จะมีอัตราการเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หลายเมืองเริ่มยอมรับและนำมาใช้อย่างเป็นทางการ มันจะกลายเป็นยานพาหนะกระแสหลัก ที่ช่วยให้ผู้โดยสาร นักท่องเที่ยว และเด็กนักเรียน ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
- รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด : เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและจำนวนเครื่องชาร์จ EV ที่ติดตั้งจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์ไฟฟ้าถูกชาร์จด้วยพลังงานไฟฟ้าที่สะอาด อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ BMW ได้ร่วมมือกับ Straus Organic Dairy Farm เพื่อติดตั้งเครื่องย่อยสลายมีเทน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทนได้ โดย BMW ยังมีโครงการนำร่อง ‘ChargeForward’ ในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก ช่วยให้ผู้ขับขี่ BMW EV ชาร์จรถยนต์ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้
- รถรับส่งผู้โดยสารไฟฟ้าของบริษัทเทคโนโลยีกำลังมา : รูปแบบรถโดยสารไฟฟ้าจะมีรุ่นเพิ่มขึ้นมากมายในปี 2021 และบริษัทเทคโนโลยีจะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่จะได้รับเกี่ยวกับการดูดซับคาร์บอนจากรถโดยสารในปีหน้านี้อีกด้วย
- รถบัสโรงเรียนไฟฟ้า E-School มุ่งสู่ระบบกริด (V2G) : Dominion Energy ในรัฐเวอร์จิเนียได้ประกาศแผนการที่จะปรับใช้รถบัสโรงเรียนให้เป็นระบบไฟฟ้าระบบกริด (V2G) จำนวน 1,500 คัน บนถนนเวอร์จิเนียในอีก 5 ปีข้างหน้า รถบัสโดยสารเหล่านี้จะถูกปรับใช้ในสถานที่ที่สามารถให้บริการ V2G ที่ดีที่สุด โดย V2G เป็นการนำพลังงานไฟฟ้าที่กักเก็บอยู่ในแบตเตอรี่ สามารถป้อนกลับเข้าไปยังระบบไฟฟ้าได้ในกรณีที่ยานพาหนะไฟฟ้าไม่ได้ใช้งานและยังเป็นระบบที่เปรียบเสมือนมีการไหลแบบสองทิศทางที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการชาร์จแบตเตอรี่เท่านั้น
- ผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการจัดส่งสินค้า : การปล่อยก๊าซคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสินค้าหรือการนำเข้าสินค้า (ชิปปิ้ง) ที่ได้สั่งซื้อทางออนไลน์นั้น มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้รถบรรทุกดีเซลขับเคลื่อน เพื่อเคลื่อนย้ายสินค้าหรือนำเข้าสินค้า (ชิปปิ้ง) ไปยังเมืองต่างๆ และสิ่งเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ผู้คนเริ่มรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีหน้านี้ได้มีการผลักดันและรณรงค์ให้ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ อาทิ IKEA หันมาใช้กลุ่มรถขนส่งไฟฟ้า
- ผู้ผลิตรถยนต์ผลักดันอุปกรณ์ชาร์จเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง : การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่รวดเร็ว ทำให้บริษัทต่างๆ วางแผนที่จะสร้างสถานีชาร์จไฟขนาดใหญ่ ที่สามารถชาร์จไฟฟ้าพร้อมกันได้หลาย 10 คันหรือแม้แต่ยานพาหนะหนักหลาย 100 คัน ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ค้าบางรายได้ผลักดันอุปกรณ์ชาร์จเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง นอกจากนี้ เมื่อตลาดเติบโตขึ้น บริษัทพลังงานรายใหญ่ ที่จำหน่ายอุปกรณ์ชาร์จกำลังผลักดันมาตรฐานแบบเปิด ซึ่งจะทำให้มีตัวเลือกในเรื่องของการให้บริการมากขึ้นด้วย
- จักรยาน e-cargo เกิดขึ้นแล้วในเมืองใหญ่ : หนึ่งในเทรนด์ ที่น่าสนใจของการขนส่งยุค ECO คือ การเกิดขึ้นของจักรยาน e-cargo ในเมืองใหญ่ทั่วโลก เช่น นิวยอร์กซิตี้ ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้กับบริษัทจัดส่ง เช่น Amazon และ UPS ในการปรับใช้จักรยาน e-cargo ข้อดีคือ ไม่เพียงแต่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เท่านั้น ยังช่วยลดความแอดอัดของรถราบนท้องถนน โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่จะมีน้อยลง รวมทั้งออกกฎห้ามขนส่งด้วยรถบรรทุกในย่านชุมชน